[FIC บอร์ดนักเขียน] Christmas Day (กวี x ซีซอร์)
วันคริสต์มาส...คุณขอพรอะไรจากซานตาคลอส?
ผู้เข้าชมรวม
1,366
ผู้เข้าชมเดือนนี้
7
ผู้เข้าชมรวม
Christmas Day
กวี x ซีซอร์
วันคริสต์มาสที่แสนหนาวเหน็บ...
ใครกันที่จะมาทำให้หัวใจของคุณเต้นแรง?
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
Christmas Day
24th December
7.40 PM
~We wish you a Merry Christmas
We wish you a Merry Christmas
We wish you a Merry Christmas
And a Happy New Year~
เสียงเพลงวันคริสต์มาสดังเคล้าไปกับบรรยากาศของวันแห่งการเฉลิมฉลอง ทั่วทั้งบริเวณลานกว้างหน้าห้างสรรพสินค้าชื่อดังถูกประดับประดาไปด้วยโคมไฟหลากสีโดยมีต้นคริสต์มาสต้นใหญ่ตั้งตระหง่านเป็นจุดศูนย์กลาง ใกล้ๆฐานของต้นคริสต์มาสมีตุ๊กตาหิมะที่ทำจากปูนวางเรียงกันเป็นแถว แต่ละตัวมีหมวกไหมพรมกับผ้าพันคอที่ต่างสีกันประดับอยู่ พวกมันพร้อมใจกันส่งยิ้มให้ผู้คนที่เดินผ่านไปมา... คอยมอบความสุขให้คนเหล่านั้นอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
ดวงตาสีนิลที่ดูลึกลับมองเหล่าตุ๊กตาหิมะพร้อมกับระบายยิ้มกว้าง อันที่จริงหน้าของพวกมันก็ดูตลกจนทำให้เธออยากจะยิ้มอยู่แล้ว ทั้งจมูกยาวๆที่ดูเหมือนมีใครเอาแครอททั้งหัวไปเสียบไว้กับปากรูปยิ้มที่ยิ้มเสียกว้างจนกินพื้นที่ไปเกือบครึ่งหน้า รวมๆแล้วก็เป็นใบหน้าของตุ๊กตาหิมะที่ใครเห็นก็ต้องขำกลิ้งแน่ๆ แต่สาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้เธอยิ้มไม่หุบมาร่วมชั่วโมงไม่ใช่ใบหน้าชวนขันของตุ๊กตาประดับนั่นเลย หากแต่เป็นข้อความที่ใครคนหนึ่งส่งถึงเธอเมื่อช่วงค่ำของเมื่อวาน
พรุ่งนี้เจอกันที่หน้าห้าง SP นะ
กวี
ข้อความสั้นๆที่ไม่ได้มีเนื้อหาอะไรนอกจากบอกสถานที่นัดกับวันที่นั่นแหละที่ทำให้หัวใจดวงน้อยของเธอที่พักนี้เหมือนไม่ค่อยจะมีเรี่ยวมีแรงกลับมาลิงโลดราวกับได้ยาชูกำลังชั้นดี
‘ซอ’ หยิบมือถือสมาร์ทโฟนของตัวเองขึ้นมาดูข้อความเดิมอีกครั้ง เธอทำแบบนี้เป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้... แต่แค่ได้มองตัวหนังสือไม่กี่ตัวนั่นก็ทำให้เธอมีความสุข... เธอสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นจากเขาคนนั้น คนที่ไม่ได้เจอหน้ากันมากว่าสามเดือน ชายผู้ที่เป็น ‘คนรัก’ ของเธอ...
กวี
สำหรับคู่รักทั่วไป ข้อความสั้นๆที่มีเนื้อหาแค่ชวนไปเดทในวันคริสต์มาสอีฟคงไม่ได้ดูพิเศษอะไร แต่สำหรับคู่ของเธอนั้นไม่ใช่... แค่นี้ก็ถือว่าพิเศษ...พิเศษมากเสียด้วย... เพราะกวีไม่ใช่ผู้ชายที่จะมีเวลามาทำเรื่องอะไรหยุมหยิมแบบนี้ เขาคือคนประเภทที่เรียกได้ว่าบ้างานตัวพ่อ หรือบางทีอาจเรียกได้ว่าด้วยอาชีพที่เป็นทำให้เขาเป็นแบบนั้น
เขาคือศัลยแพทย์มือหนึ่ง
เป็นบุคลากรที่เป็นที่ต้องการอย่างยิ่งของโรงพยาบาล วันหนึ่งๆกวีแทบจะไม่มีเวลาปลีกตัวมารับโทรศัพท์ของเธอเลยด้วยซ้ำ เขายุ่งอยู่กับคนไข้ตลอดเวลา อยู่ที่โรงพยาบาลมากกว่าที่บ้าน เดินเข้าออกห้องผ่าตัดเหมือนเป็นสนามเด็กเล่น ซอเชื่อว่าหากเจาะเลือดเขาออกมาดูคงจะได้เห็นเม็ดเลือดแดงเป็นรูปกากบาทที่เป็นสัญลักษณ์ของโรงพยาบาลมากกว่าก้อนกลมๆแบนๆแน่ๆ
กวีรักโรงพยาบาลมาก
บางทีอาจจะมากกว่าเธอที่เป็นคนรักเสียอีก...
ดังนั้นแค่ข้อความสั้นๆที่เขาส่งมา...แค่นั้นมันก็ทำให้เธอดีใจ... เขาไม่เคยส่งข้อความหาเธอ หรือจะพูดให้สวยหรูก็คือไม่มีเวลาจะส่ง ตลอดสองปีที่คบหากันมา เขาโทรหาเธอสี่ครั้ง สองครั้งแรกโทรมาบอกยกเลิกนัด ครั้งที่สามโทรมาถามอาการเธอที่ไม่สบายนอนซมอยู่ที่บ้าน ส่วนครั้งที่สี่โทรมาบอกว่าเขาจะไปศึกษาดูงานที่ต่างประเทศ...กำชับไม่ให้เธอติดต่อไป...
จะว่าไปเขาก็ใจร้าย...
แต่เธอก็ยังรักเขา... และก็เพราะความรักเธอถึงต้องเข้าใจเขา ไม่โวยวายตีโพยตีพายให้เขาลำบากใจ บางทีกวีอาจจะไม่ได้ตั้งใจจะเป็นแบบนี้ เขาก็แค่...
ไม่มีเวลา...
“ป้าซอ~” เสียงเล็กใสของใครคนหนึ่งดึงเธอออกจากภวังค์ความคิด ร่างบางหันขวับไปยังต้นเสียง ดวงตาสีนิลเบิกกว้างเมื่อเห็นว่าเจ้าของเสียงที่เรียกเธอนั้นเป็นใคร
“อัน! ไอซาฟ!”
“สวัสดีครับคุณซอ” เด็กหนุ่มร่างสูงโปร่งทักทายเธอพร้อมกับยิ้มอย่างเป็นมิตร ข้างๆกายมีเด็กสาวที่ซ่อนใบหน้าสวยหวานภายใต้แว่นกรอบหนาเดินเคียงคู่มาด้วยกัน ซอพยักหน้ารับคำทักทายหงึกหงักก่อนที่ดวงตาของเธอจะปะทะเข้ากับสายตาจับผิดของเด็กสาวที่เดินมาด้วยกัน
“มายืนสวยอะไรคนเดียวแถวนี้คะป้าซอ” อีกฝ่ายถามขึ้น ซอนิ่งเงียบไปเหมือนจะหาเหตุผลดีๆมาอธิบาย เธอไม่อยากให้ใครรู้เรื่องนัดของเธอกับกวีเพราะไม่อยากถูกแซว ยิ่งเป็นคนตรงหน้าก็ยิ่งแล้วใหญ่...
แซวทีนี่อับอายไปทั้งหมู่บ้าน
“ก็...อยู่บ้านเหงาๆ... เอ่อ...ก็เลยมาเดินเล่น” เธอโกหกออกไปในที่สุด แต่ทว่าเด็กสาวรุ่นน้องกลับฉลาดกว่าที่คิด ‘อัน’ มองสาวสวยในชุดเดรสสั้นสีครีมสไตล์วินเทจด้วยสายตาเจ้าเล่ห์
“นัดใครไว้ใช่มั้ยล่ะป้า!” อันโพล่งถาม เล่นเอาคนโกหกถึงกับผงะ “ใครเหรอ? พี่กวีใช่มั้ย? หึๆ ต้องเป็นพี่กวีแน่ๆ ไม่งั้นป้าซอไม่ถึงกับลงทุนแปลงโฉมเป็นซินเดอเรลล่าแบบนี้หรอก”
“จะ...จะบ้าเหรอ!” เธอว่าพร้อมกับเอามือตีแขนคนชอบแซวแรงๆ รู้สึกว่าอุณหภูมิที่ใบหน้าสูงขึ้นจนผิดปกติ “อันก็รู้ พี่กวีเค้าไม่มีเวลามาทำอะไรแบบนี้หรอก ป่านนี้ก็คงขลุกอยู่กับโรงพยาบาลที่รักนั่นแหละ” เธอพูดเสียงตัดพ้อเสียจนคนฟังชักสงสัย
“อ้าว งอนพี่กวีอยู่เหรอป้า”
“เปล่า... ว่าแต่ตัวเองเถอะ ควงหนุ่มมาด้วยเนี่ยจะไปฉลองคริสต์มาสอีฟกันเหรอ?” เป็นฝ่ายเธอที่ถามบ้าง อันหัวเราะเสียงพร้อมกับกอดแขนเด็กหนุ่มที่ยืนยิ้มแห้ง
“ใช่แล้วป้า! วันนี้อันกับที่รักจะไปดินเนอร์กันใต้แสงเทียน เสร็จแล้วเราก็จะไปดูหนังรอบดึกด้วยกัน จะอยู่ด้วยกันยันเช้าเลยทดแทนกับที่ไม่ได้เจอหน้ากันตั้งสามวัน!”
“สะ...สามวันเหรอ”
ไม่ได้เจอกันสามวันยังชดเชยเสียขนาดนี้ แล้วเธอกับกวีที่ไม่ได้เห็นหน้ากันตั้งสามเดือนควรจะชดเชยแบบไหนดี?
“โอ๊ะ! ได้เวลาแล้วที่รัก ถ้าไปช้ากว่านี้จะเลยเวลาที่จองร้านไว้” อันหันมาพูดกับแฟนหนุ่มที่พยักหน้าเห็นด้วยก่อนจะหันมาพูดกับเธอ “ งั้นอันกับที่รักไปก่อนนะป้า วันนี้เจอพี่กวีทั้งทีป้าก็จัดให้คุ้ม เอาให้พี่กวีลืมโรงพยาบาลแล้วมารักป้าหัวปักหัวปำเลย”
“พูดอะไรเนี่ยอัน! คนอื่นมาได้ยินเค้าจะหาว่าพี่เป็นคนยังไง” เธอแหวใส่ ใบหน้าหวานร้อนผ่าวเหมือนยืนท่ามกลางแดดจ้า
“แหม อันรู้หรอกน่า... เห็นแต่งตัวเรียบๆแบบนี้ก็เถอะ แต่จริงๆแล้วป้าน่ะ...”
“...”
“เป็นพวก ‘หื่น’ ใช่มั้ยล่ะ?”
“อัน!!!”
.
.
.
11.34 PM
สี่ชั่วโมงหลังจากนั้น...
เธอก็ยังคงรอ...
เสียงเพลงวันคริสต์มาสเงียบไปแล้ว ผู้คนที่เคยสัญจรกันพลุกพล่านก็หายไปเหมือนกัน บรรยากาศแห่งการเฉลิมฉลองจบลงอย่างน่าใจหาย โคมไฟที่ประดับประดาอยู่ทั่วบริเวณดับลงบางส่วน ส่วนใหญ่ยังคงเปิดไว้เพื่อฉลองวันคริสต์มาสที่จะมาถึงในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า ต้นคริสต์มาสยังคงตั้งตระหง่านอยู่ที่เดิม ตุ๊กตาหิมะยังยืนส่งยิ้มอยู่เหมือนเดิม แต่เธอ...
ไม่ยิ้มแล้ว...
หญิงสาวนั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้ตัวยาวท่ามกลางอากาศที่หนาวเย็นของช่วงดึก นิ้วเรียวสวยสัมผัสไปที่หน้าจอมือถือสมาร์ทโฟนเพื่อโทรออกหาใครคนหนึ่ง...
ใครคนนั้นที่หลอกให้เธอรอ...
หลอกให้เธอดีใจกับข้อความของเขา...
เลขหมายที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้ กรุณาติดต่อใหม่อีกครั้งค่ะ
เสียงโอเปอเรเตอร์ตอบกลับมาเป็นประโยคเดิมๆที่เธอฟังมาไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ร่างบางกดวางสายอย่างรู้สึกเจ็บใจ มือเรียวเล็กกำมือถือไว้แน่น...
พรุ่งนี้เจอกันที่หน้าห้าง SP นะ
ข้อความนั้นยังคงลอยเด่นอยู่ในหัว
เจอกัน?
มันก็แค่คำหลอกลวง...หลอกให้เธอดีใจ...
เหนื่อยแล้ว...
เหนื่อยแล้วกับการที่ต้องเข้าใจเขา เหนื่อยแล้วกับการที่ต้องรู้สึกว่าถูกละเลยอยู่ตลอดเวลา เหนื่อยแล้วกับการที่ต้องเป็น ‘ที่สอง’ สำหรับเขาเสมอ
เหนื่อยแล้ว...
กับความรัก...
หยดน้ำใสๆรื้นขึ้นที่ตาราวกับตอบรับความรู้สึกเจ็บปวดในใจของเธอ หญิงสาวหยัดกายลุกขึ้นทั้งที่แข้งขาแทบไม่มีแรง เธอรู้สึกเหนื่อยล้าราวกับร่างกายถูกสูบพลังออกไปจนหมด ความเจ็บ ความผิดหวัง ความเสียใจ ทุกความรู้สึกที่เธอพยายามเก็บมันไว้ตลอดสองปีดูเหมือนจะถึงขีดสุดแล้ว ความอดทนของเธอ...หมดลงแล้ว...
เธอควร...ตัดใจจากเขาเสียที
ซอยิ้มอย่างขมขื่น ดวงตาสีนิลมองต้นคริสต์มาสผ่านม่านน้ำตา...
วันคริสต์มาส...วันที่เธอในวัยเด็กเชื่ออย่างสนิทใจว่าพอตกดึกจะมีซานตาคลอสนั่งรถเลื่อนที่เทียมด้วยกวางเรนเดียร์หอบเอาของขวัญกล่องใหญ่มาส่ง เธอเลิกอธิษฐานขอของขวัญตอนช่วงประถมหลังจากรู้ว่าเรื่องทั้งหมดเป็นเพียงแค่นิทาน ซานตาคลอสไม่มีตัวตนอยู่จริง... แต่ตอนนี้ ตอนที่จิตใจกำลังเจ็บช้ำ เธอ...อยากจะขอของขวัญจากซานตาคลอสอีกสักครั้ง…
ขอให้เธอมีความสุขซักที...
“ขอโทษที่มาช้า...” เสียงทุ้มของใครคนหนึ่งดังอยู่ข้างหลัง
หญิงสาวน้ำตาไหลพราก... เธอจำเสียงของเขาได้ดี เสียงทุ้มลึกอันเป็นเอกลักษณ์ที่ฟังกี่ทีก็ให้ความรู้สึกอบอุ่น เสียงที่ไม่ว่าจะพูดอะไรเธอก็จะเชื่อและคล้อยตามทุกครั้ง เป็นเสียงที่ชวนหลงใหล... เสียงของเขา...
กวี
“พี่ไม่คิดว่าซอจะอยู่รอด้วยซ้ำ... พี่ขอโทษนะ”
“...”
“ซอพี่...”
“พี่...มาทำไมเอาตอนนี้คะ” เธอพูดทั้งที่ยังหันหลัง “มันไม่สายไปหน่อยเหรอ”
“พี่ขอโทษ แต่พี่ติดงาน...”
“ ‘งาน’ ?” ซอพูดขัดขึ้น เธอหันหน้ามาเผชิญกับเขา ดวงตาสีนิลยังคงมีน้ำตาไหลออกมาไม่ขาดสาย “งานสินะ ซอเข้าใจค่ะ ซอเข้าใจ... งานของพี่สำคัญ มันสำคัญเสมอ ซอเข้าใจ...”
“ซอ...”
“แต่พี่กวีคะ แล้วซอไม่สำคัญสำหรับพี่เลยเหรอ?”
“...”
“ถ้าพี่มาไม่ได้ ทำไม...พี่ไม่บอกซอ โทรมาสักนิดก็ยังดี ส่งข้อความมาก็ได้ พี่ปล่อยให้ซอรอพี่ทำไม? พี่ให้ความหวังซอทำไม!?!” เธอตะคอกถามออกไปทั้งน้ำตา กวียังคงยืนเงียบ เขาไม่ได้ตอบโต้อะไรเธอเลย
“...”
“ซอเหนื่อยแล้วค่ะพี่กวี... เหนื่อยที่จะต้องวิ่งไล่ตามพี่ ซอรู้สึกเหมือนตัวเองบ้าไปคนเดียว รู้สึกเหมือน...ซอรักพี่ข้างเดียว”
นานทีเดียวที่ไม่มีใครพูดอะไร บรรยากาศที่ถูกทิ้งให้เงียบกัดกร่อนจิตใจของเธอจนแทบไม่เหลือ เขายืนอยู่ตรงหน้าเธอแท้ๆ แต่เธอกลับ...ไม่รับรู้ถึงความอบอุ่นจากเขาเลย เขาเหมือนน้ำแข็งที่เย็นเฉียบ ที่ทำให้เธอหนาว...ไปจนถึงหัวใจ...
“ขอโทษ...” กวีเอ่ยออกมาในที่สุด เขาหลบสายตาของเธอเหมือนต้องการจะซ่อนความรู้สึกบางอย่างไว้ หญิงสาวแค่นยิ้ม...
“ไม่ต้องขอโทษหรอกค่ะ ไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว” เธอว่า ดวงตาสีนิลที่เต็มไปด้วยน้ำตามองใบหน้าหล่อเหลาอย่างเจ็บปวด ก่อนจะเอ่ยคำพูดที่แสนเสียดแทง
“ซอว่าเรา...จบกันตรงนี้เถอะ”
จบกัน...
ประโยคสั้นๆแต่ทำให้รู้สึกเจ็บไปจนถึงขั้วหัวใจ กวีเคยคิดสงสัยว่าเวลาถูกบอกเลิกเขาจะรู้สึกอย่างไร มันจะเจ็บปวดเหมือนที่ใครหลายคนบอกเอาไว้รึเปล่า? มันจะทำให้หายใจไม่ออก ในหัวเบลอเหมือนถูกของแข็งๆฟาดเข้าอย่างจังมั้ย? เขาเคยสงสัย...แต่ตอนนี้เขารู้แล้ว
มันเจ็บยิ่งกว่านั้น
ร่างสูงมองหญิงสาวคนรักเต็มๆตาอีกครั้ง วันนี้เธอแต่งตัวสวย... ชุดที่ใส่ทำให้เธอกลายเป็นผู้หญิงที่มีลุคสดใสน่ามอง แต่ความสดใสของเธอก็ถูกบดบังเพราะใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตา
ดวงตาของเธอ...
มองเขาอย่างเจ็บปวด...
“อ๊ะ! พี่จะทำอะ...” ซออุทานออกมาอย่างตกใจเมื่อจู่ๆร่างทั้งร่างของเธอก็ถูกคนตัวโตดึงเข้าไปซบกับแผ่นอกแข็งแกร่ง เธอดิ้นขลุกขลัก พยายามปฏิเสธอ้อมกอดของคนใจร้ายแต่ทว่าไม่ได้ผล
“ฟังสิซอ” เขาพูดพร้อมกับกอดเธอไว้แน่น “หัวใจ...ไม่เคยโกหก”
ตึกตัก...
เสียงหัวใจที่เต้นแรงจนแทบจะทะลุออกมาข้างนอกทำให้คนที่ถูกบังคับให้ฟังประหลาดใจ หัวใจของกวี...กำลังเต้นแรง หัวใจของเขาที่เธอเข้าใจมาตลอดว่ามันคงตายด้านไปเรียบร้อยแล้วกำลังเต้นเป็นจังหวะแปลกๆ...
“ซอไม่ได้รักพี่ข้างเดียว”
“ฮึก...”
“พี่รู้ว่าตัวเองแย่ พี่รู้ว่าพี่ทำให้ซอเสียใจตลอด พี่รู้...” ร่างสูงพูดเสียงโหวงเหวง “แต่ซอยกโทษให้พี่ได้มั้ย?”
“...”
“พี่สัญญาว่าจะทำให้ดีกว่าเดิม พี่สัญญาว่าจะมีเวลาให้ซอ จะไม่ทำให้ซอร้องไห้อีก พี่สัญญา... เพราะงั้นให้โอกาสพี่อีกครั้งนะ อย่าเพิ่งไปไหน...อย่าเพิ่งไปจากพี่...นะครับ”
เหง่งหง่าง~
เสียงระฆังดังกังวาน...เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าเข้าสู่เช้าของวันใหม่แล้ว กวีเอื้อมมือลูบศีรษะคนที่ยังคงร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่เบาๆ
“สุขสันต์วันคริสต์มาสครับ”
.
.
.
25th December
หลังจากที่ปรับความเข้าใจกันได้ทั้งคู่ก็มานั่งมองบรรยากาศยามค่ำคืนของช่วงเทศกาลคริสต์มาสที่เก้าอี้ไม้ตัวยาว มือหนากุมมือของเธอไว้แน่นราวกับจะย้ำว่าเขาไม่มีทางปล่อยมือเธออีกแล้ว
“หนาวมั้ย?” ร่างสูงถามพร้อมกับพันผ้าพันคอของตัวเองที่คอของหญิงสาว
“ไม่ค่ะ... อุ่นมากเลยต่างหาก”
โดยเฉพาะหัวใจ... ตอนนี้มันอุ่นมาก...
“ทำไมถึงยังรอพี่ล่ะ? ซอจะกลับไปก่อนพี่ก็ไม่ได้ว่าอะไรหรอกนะ”
“ซอยังหวังว่าพี่จะมานี่คะ เรา...ไม่ได้เจอกันตั้งสามเดือนเลยนะ ซออยากเห็นว่าพี่เป็นยังไงบ้าง พี่ผอมลงมั้ย? หรือว่าอ้วนขึ้น? พี่หล่อน้อยลงกว่าเดิมรึเปล่า?”
“แล้ว...หล่อน้อยลงมั้ย?” กวีถามยิ้มๆ
“หล่อมากกว่าเดิมนิดหน่อยค่ะ” เธอตอบก่อนจะหันใบหน้าที่คงแดงเป็นลูกตำลึงสุกไปทางอื่น เธอไม่ได้โกหกเลย กวีหล่อขึ้นมากจริงๆ
“พี่ขอโทษนะซอ พี่รู้ว่ามันออกจะเห็นแก่ตัวที่จะมาขอให้เราเข้าใจอะไรพี่อีก แต่พี่...”
“ไม่ต้องพูดแล้วค่ะ ซอเข้าใจแล้ว งานของพี่คือการช่วยเหลือชีวิตคน มันย่อมจะสำคัญกว่าเรื่องส่วนตัวอยู่แล้ว” ร่างบางพูดพร้อมกับยิ้ม
“...”
“งั้นเอางี้ดีมั้ยคะ เราไม่ต้องมาเจอกันบ่อยๆก็ได้ แค่โทรคุยกันบ้าง ส่งข้อความหากัน หรือถ้าพี่มีเวลามากกว่านั้นเราก็เฟสไทม์คุยกัน ถึงตัวเราจะไม่ได้เจอ...แต่แค่รู้ว่าพี่ไม่ได้ทิ้งซอไปไหน แค่นั้นซอก็ดีใจแล้วค่ะ”
“ขอบใจนะ ที่เข้าใจ” กวีพูดพร้อมกับกุมมือเธอไว้แน่นราวกับต้องการจะถ่ายทอดทุกความรู้สึกที่อยู่ในใจผ่านมือของตัวเอง เขารู้ตัวดี เขาไม่ใช่คนพูดมาก... โดยเฉพาะกับเรื่องแบบนี้ เรื่องที่ต้องใช้ความรู้สึกมากกว่าสมอง การจะบอกให้เธอที่เขากุมมืออยู่รับรู้ถึงความรู้สึกของเขา ก็คงจะมีแค่วิธีนี้...
แค่ใช้ภาษากาย...
“หืม...เกือบตีหนึ่งแล้วเหรอนี่” ร่างบางพูดขึ้นหลังจากดูนาฬิกาที่ข้อมือ “พรุ่งนี้พี่มีตรวจคนไข้แต่เช้านี่คะ ซอว่าเรา...แยกย้ายกันกลับ... อ๊ะ!”
เป็นอีกครั้งที่เขาคว้าเธอไปกอดแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย แต่ครั้งนี้เธอไม่ได้ปฏิเสธเขา หญิงสาวกอดตอบเบาๆ
“วันนี้...อยู่ด้วยกันจนถึงเช้าเถอะนะ”
“...”
“พี่รักซอนะครับ”
ร่างสูงย้ำคำพูดนั้นด้วยจุมพิตที่หวานที่สุด...
ขอบคุณสำหรับของขวัญค่ะคุณซานตาคลอส
วันคริสต์มาสปีนี้...
ฉันมีความสุขจริงๆ...
---จบ---
ผลงานอื่นๆ ของ แจ่มพลอย ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ แจ่มพลอย
ความคิดเห็น